[Blog] แนะนำ RK84 Keyboard สำหรับผู้เริ่มต้นเข้าวงการ
เริ่มต้นกว่า Keychron ก็เห็นจะเป็น RK84 นี่แหละ
เคยคิดว่า Keychron เป็นตัวเริ่มต้นสำหรับวงการคีย์บอร์ดแล้ว แต่จริง ๆ ยังมีอีกหลายตัวที่บอกได้เลยว่าเป็นตัวเริ่มต้นกว่า ในตอนแรกไม่ได้สนใจคีย์บอร์ดพวกนี้เลย แต่พอได้ดู YouTube แล้วพบว่า Keyboard ราคาที่ไม่แรงมาก ลองเอา Modified ดู ก็ให้เสียงกับสัมผัสที่ดีได้เหมือนกัน ช่วงที่ผ่านมาก็ Work from home มีการจัด Station สำหรับการทำงานเพิ่มขึ้นไปอีก เลยอยากได้คีย์บอร์ดสำรอง เอาไว้ใช้แทน TOFU65 ที่เป็นตัวหลัก
ตอนแรกก็มองไว้ Keyboard ไว้หลายตัวเหมือนกัน แต่ด้วย Requirement ยังใกล้เคียงแบบเดิมคือ อยากได้ที่เป็น Hot-swap แล้วก็ขนาดไม่เกิน 75% และที่สำคัญต้องไม่แพงมาก เพราะไม่ได้เอามาเป็นตัวเอาจริงอะไร สุดท้ายเลยจบที่ตัว RK84 Red switch ราคาอยู่ที่พันกลาง ๆ เท่านั้น
ก็ว่าจะไม่เขียน Review แล้ว เพราะซื้อคีย์บอร์ดตัวนี้มาใช้งานจริง ๆ แต่รู้สึกว่าเขียนเกี่ยวกับ Model ใน Blog เยอะพอแล้ว เพราะปกติต้องมีเดือนละ 1 ตอนที่นอกเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับ Model ดังนั้นขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเขียนเล่าถึง Keyboard Royal Kludge 84 หรือที่ทุกคนเรียกติดปากกว่า RK84
Why 75%?
บอกเสมอว่าชอบ Layout ขนาดที่ 65% ที่สุด เพราะกระทัดรัด ไม่ต้องใช้ข้อมือเยอะในการพิมพ์ ทำให้พิมพ์ต่อเนื่องได้ยาวนาน แต่เนื่องจากตัวนี้ซื้อมาใช้งานเป็นหลัก ดังนั้น Function keys เลยยังมีความสำคัญ เนื่องจากการ Coding ด้วย SAS ยังจำเป็นต้องกด Function keys เยอะอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเลยต้องเป็น 75%
Specification
คงไม่ได้เป็นการรีวิว เพราะว่า RK84 เป็นที่นิยมมากอยู่แล้ว และมีคนรีวิวที่ดีกว่ามากมาย สิ่งที่ทำได้คงเป็นเพียงการแปะ Spec sheet คร่าว ๆ จาก Official website เท่านั้น
ไล่เรียงไปตาม Specification พร้อมกับความรู้สึกหลังจากการใช้งานจริง RK84 เป็นคีย์บอร์ดที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ เช่นเดียวกับ Keychron และมีทั้งโหมดไร้สาย และใช้งานแบบต่อสาย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ไม่ได้ถือมาเป็นสาระสำคัญ เพราะว่าใช้งานแบบต่อสายอยู่ตลอดอยู่แล้ว ทำให้เรื่องแบตเตอรี่ที่ให้มา 3750 mAh ก็ไม่มีความจำเป็นเช่นกัน
RK84 มีไฟ RGB มาให้ซึ่งไม่เคยได้เปิดใช้งานเลย ดังนั้นความสวยงามหรือลูกเล่นของไฟ RGB จึงไม่สามารถบอกได้ คีย์บอร์ดตัวนี้สามารถ Remapping key ได้ด้วยโปรแกรมของ Royal Kludge เอง แต่ก็ไม่ได้ใช้งานอีกเหมือนเดิม เพราะไม่ได้ปรับอะไรมากมาย ถ้าใช้งานกับ Windows ปกติอยู่แล้ว มองว่าไม่มีความจำเป็นต้องปรับอะไรเพิ่มเติม
ส่วนที่ส่วนตัวยกให้เป็นไฮไลท์คือ PCB ที่เป็นแบบ Hot-swappable ที่สามารถถอดเปลี่ยน Switch ได้ตามความต้องการ และ Plate ที่ให้มาเป็นอะลูมิเนียม แม้ว่า Case จะเป็นพลาสติก แต่เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไปก็ถือว่าคุ้มมากแล้ว
Modification
ส่วนนี้เป็นส่วนที่อยากพูดถึงมากกว่า เนื่องจาก Keyboard ราคาไม่ได้แรงมาก วัสดุที่ใช้ทำเลยต้องเป็นไปตามราคา ดังนั้นเลยต้อง Modified กันหลายส่วน แต่ขอแบ่งออกเป็นส่วนใหญ่ ๆ 2 ส่วนคือ ส่วนที่ต้อง Modified กันอยู่แล้ว และส่วนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ที่ยังไม่ทำกับคีย์บอร์ดตัวไหนมาก่อน
เริ่มจากส่วนที่ต้อง Modified กันอยู่แล้ว เริ่มต้นที่ Case ที่เป็นพลาสติกทำให้อาจเเกิดเสียงสะท้อนได้ง่าย สิ่งที่เสริมเข้าไปส่วนแรกคือโฟมซับเสียง โดยแบ่งออกเป็น 2 คือ
- โฟมซับเสียงระหว่าง Case และ PCB โดยเลือกใช้เป็น PE ที่เป็นวัสดุสำหรับการปูกระเบื้อง Laminate
- โฟมซับเสียงระหว่าง PCB และ Plate โดยเลือกเป็น EVA อันนี้เริ่มมีร้านที่ตัดขายในไทยแล้ว สั่ง Layout ตามที่ต้องการได้เลย ซึ่ง RK84 ใช้ Layout เดียวกับ Keychron K2 ได้แบบพอดี
ต่อมาเป็นมีการติดพลาสเตอร์ที่ Stabilizer ตามเดิมเพื่อความแน่นหนา ส่วน Switch ที่เป็นสั่งมาเป็น Red switch ทำการลูปเพื่อความ Smooth เหมือนเดิม ต้องบอกแบบนี้ว่า Switch ที่ได้มาอาจไม่ใช่เป็น Red switch ของแบรนด์ดัง ๆ อย่าง Cherry หรือ Geteron แต่ว่าคุณภาพไม่ได้แย่เลย เผลอ ๆ งานพลาสติกแน่นกว่า Geteron ด้วยซ้ำ ที่แน่ ๆ คือ ใส่ฟิล์มเพิ่มเข้าไปไม่ได้ เพราะพลาสติกประกอบมาแน่น ไม่มีช่องว่างอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องการใช้งานจึงหายห่วง
ทั้งหมดเล่ามาเป็นการ Mod เหมือน Keychron K6 ทุกประการ สามารถอ่านย้อนหลังแบบละเอียดได้จาก Link ด้านล่าง
การ Modified อีกแบบที่ (ยัง) ไม่เคยทำกับคีย์บอร์ดตัวไหนมาก่อน เริ่มจาก Tape mod ใช่แล้ว มันเป็นการติดเทปเพิ่มเข้าไปที่หลังแผง PCB ซึ่งระยะหลังมานี้ เริ่มเห็นการ Mod แบบนี้เพื่อขึ้นเรื่อย ๆ คลิปด้านล่างได้อธิบายวิธีทำ และสิ่งที่ได้หลังจากการทำ Tape mod
หลังจากที่ทำ Tape mod แล้วพบว่าประสบการณ์ระหว่างพิมพ์ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก แต่เสียงพิมพ์เปลี่ยนไปเยอะพอสมควร เสียงที่ออกมามีความแหลมมากขึ้น ได้ยินเสียงสะท้อนจาก Switch มาขึ้น มันเสียง “เป๊าะแป๊ะ” เยอะขึ้นกว่าเดิมมาก
ต่อมาเป็นการทำ Stabilizer ซึ่ง RK84 เป็นแบบ Plate mount และเนื้องานพลาสติกของ Stabilizer ก็บางตามราคา ทำให้บางครั้งแม้ว่าต้องพลาสเตอร์เสริมเข้าไปแล้ว หรือลูปแล้ว แต่ก็ยังมีเสียง “กิ๊ก ๆ” เกิดขึ้นได้อยู่ ศัพท์ในวงการเค้าเรียกว่า Rattling คลิปด้านล่างเป็นแนวทางในการแก้ไขเสียงเหล่านี้ให้หมดไป
จากคลิปด้านบนมีหลายวิธีในการ Mod แต่วิธีที่เลือกใช้คือ Bar End Wrap Mod หรือเป็นการติดพลาสเตอร์เข้าที่เหล็กของ Stabilizer แนะนำว่าใช้เป็นพลาสเตอร์ใสกันน้ำจะดีที่สุด หลังจากที่ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งพบว่า การติดพลาสติกที่หนาไปมันก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะว่ามันทำให้สัมผัสของการกดคีย์ที่ต้องใช้ Stabilizer เสียไปหมด คำแนะนำที่มีให้คือ แนะนำให้ติดพลาสเตอร์เฉพาะด้านบนของเหล็กที่สัมผัสกับเนื้อพลาสติกเท่านั้น วิธีการนี้ช่วยลดเสียง Rattling และยังช่วยเก็บสัมผัสในการคีย์เอาไว้เหมือนเดิม
อีก Mod นึงที่กำลังมาแรง ณ ตอนนี้คือ PE Mod มันคือการเพิ่ม PE Foam แทรกเข้าไประหว่าง PCB และ Switch ไม่ใช่ PCB และ Plate ดังนั้นจึงเป็นเหมือนการเพิ่ม Layer อีกชั้นนึงเข้ามา เสียงที่ได้เป็นเสียงไปทางเป๊าะแป๊ะเช่นเดียวกันกับ Tape mod ซึ่งวิธีการนี้ทำให้คีย์บอร์ดที่ราคาไม่ได้แรงมาก มีเสียงที่น่าฟังไปอีกแบบ
Link ด้านบนเป็นวิธีการทำ PE Mod ที่เข้าไปใน RK84 แต่ถ้าไม่อยากใช้ PE Foam ที่อาจทำให้ข้างในคีย์บอร์ดไม่สวยงาม ตอนนี้ก็มี PE Foam ที่เป็นสติ๊กเกอร์เอาไว้ติดบริเวณที่ต้องเสียบ Switch โดยเฉพาะก็มี ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่อยาก Looks คีย์บอร์ดไม่เลอะเทอะจนเกินไป
Keycaps
ขอแยกเป็น Section ต่างหาก เพราะว่าไปเจองาน Keycaps ดี ๆ ฝีมือคนไทยมา ร้านมีชื่อว่า ReXcommend สามารถค้นหาร้านจากใน Facebook ได้เลย
ที่บอกว่าร้านนี้ดี… อาจเพราะเป็นร้านที่โดนใจมากกว่า เพราะส่วนตัวแล้วชอบเนื้อพลาสติกที่เป็น PBT เคยพยายามหาที่เป็นภาษาไทยมาสักพัก จนถอดใจไป เพราะหาสวย ๆ ยากเหลือเกิน จนมาเจอร้านนี้ เห็นร้านนี้มาตั้งแต่เริ่มขาย แต่ว่าตอนนั้นยังมีเฉพาะ OEM Profile ซึ่งเป็น Profile ที่ไม่ได้ถนัด เลยเข้าไป Comment บอกว่าถ้ามี Cherry profile คงได้เสียเงินอุดหนุนกันอย่างแน่นอน และแล้ววันที่มี Cherry profile ก็มาถึง… ตัดสินใจได้ไม่ยากเลย ขออุดหนุนมาใส่ RK84 ตัวใหม่เอาไว้ใช้ทำงาน
ความประทับของ Keycaps คือวัสดุไม่แย่เลย ออกไปทางดีด้วยซ้ำ เพราะเป็นเนื้อพลาสติก PBT ที่ชอบใช้ แต่ถ้าพลาสติก PBT ที่ไม่ดี เนื้อพลาสติกจะบาง และเสียรูปได้ง่าย แต่ร้านนี้การันตีว่าเนื้อพลาสติกหนา (ถึงหนามาก) ไม่เสียรูปง่าย ๆ แน่นอน ส่วนสีที่สกรีนมาในเนื้อ Keycaps เป็นแบบ Dry-sub ที่มีความทนทาน มาพร้อมกับสีสันที่สวยงาม ซึ่งซื้อมาเป็นสีเขียวม่วง เพราะทำให้รู้สึกเหมือนโจ๊กเกอร์จากเรื่อง Batman
สิ่งที่ดีไปกว่านั้นคือการบริการ ซึ่งตัวอักษรพิเศษ เช่น Ctrl, Alt, Fn ทางร้านสามารถ Custom ให้ได้หมดเลย ซึ่งก่อนที่จะลงตัวออกมาในรูปแบบนี้ ก็แก้กันอยู่สักพัก แต่จบได้สวยงามมาก
โดยสรุปแล้ว Keycaps จากร้าน ReXcommend ถือว่าเป็น Keycaps ที่ดี สมราคาที่ไม่ได้แพงเวอร์มาก ถ้าใครอยากเลือกมาใช้งานก็สามารถบอกได้เต็มปากว่าดี
Conclusion
ตอนแรกก็คิดไว้ว่า ไม่อยากจ่ายเงินแพงมากสำหรับคีย์บอร์ดอันนี้ เพราะว่าไม่ได้เอาจริงอะไร แต่สรุปตอนจบ ก็เสียหายไปเยอะอยู่เหมือนกัน รวมราคาแล้วอาจถูกกว่า Keychron K2 แค่นิดหน่อย แต่โดยรวมถือว่า RK84 เข้าตาอยู่พอสมควร อาจชอบที่ความไม่ Perfect ของมันที่ทำให้ต้องมาเปลี่ยนอะไรเยอะแยะไปหมด
สรุปแล้วพูดถึง RK84 นิดเดียว นอกนั้นเป็นอื่นหมดเลย…