[Blog] Review Alpaca V2 Switch และ C3 Equalz Stabilizers V3
Alpaca V2 Switch and C3 Equalz Stabilizers V3
ได้เวลาปรับเปลี่ยนใหม่… เมื่อต้นปีได้เปลี่ยน Keycaps มาใช้เป็น GMK อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยน Keyboard มาเป็น BOOP 65% แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนั้นเป็นการเปลี่ยน “ภายนอก” ทั้งหมดเลย หมายความว่าไม่ว่าภายนอกจะเปลี่ยนไปยังไง โครงสร้างภายใน Keyboard ก็ยังเหมือนเดิม เช่น Switch หรือ Stabilizer
สำหรับการ Review ทั้ง Keycaps และ Keyboard สามารถติดตามอ่านได้ที่ Links ที่ให้ไว้ด้านล่าง
Switch
จากที่เมื่อก่อนเคยชอบใช้เป็น Switch แบบ Tactile หรือที่รู้จักกันว่า Switch แบบสองจังหวะ และแน่นอนว่าใช้เป็นตัว Top-tier อย่าง Holy Panda ที่ถือว่าเป็น Switch ระดับ High-end ในกลุ่มของ Tactile เลยก็ว่าได้
แต่สาเหตุที่เปลี่ยน เพราะรู้สึก “เหนื่อย” ในการพิมพ์ รู้สึกว่าการพิมพ์แต่ละครั้งต้องใช้แรงกดเยอะมาก เช่นการพิมพ์ Blog 1 ตอน เฉลี่ยที่ประมาณ 400–700 คำ เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วเกิดอาการเมื่อยนิ้ว เมื่อเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เลยเกิดอาการไม่อยากกดคีย์บอร์ดเลย
ทำให้อยากเปลี่ยนเป็น Switch linear แทน เพราะเคยใช้งาน Linear พิมพ์งานไปมากกว่าหนึ่งพันหน้า พบว่าไม่เหนื่อยเท่าพิมพ์บน Holy Panda 700 คำ แต่ว่า Linear switch (es) ก็มีมากมายเหลือเกิน แต่เท่าที่ศึกษามา Switch ทั้งหมดนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ Thock (ต๊อก) และ Clack (แคร๊ก)
Alpaca V2
Alpaca V2 เป็น Top-tier เช่นกัน แต่เป็นสาย Linear ที่มีการกดจังหวะเดียว ว่ากันว่าความลื่นของ Alpaca V2 จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ หลังจากที่ลองแล้ว สามารถการันตีได้เลยว่า “ลื่น” จริง ในบางครั้งก็ลื่นจนเกินไป เพราะบางจังหวะที่พิมพ์เร็วมาก อาจเกิดอาการ “ลั่น” ที่มาพร้อมกับความลื่นเป็นปกติ อาการลั่นคือการไม่ได้ตั้งกด Key นั้น แต่มือพลาดไปโดนแล้ว Switch ตอบสนองได้เร็วจนเกินไป
เสียงของ Alpaca V2 ออกไปในทาง Clack มากกว่า Thock ถ้าต้องการให้เสียงมีความ Thocky มากขึ้น อาจต้องทำเป็น Tape mod / PE Mod ช่วยเล็กน้อย น้ำหนัก Spring อยู่ที่ 62 กรัม จัดว่าอยู่ในช่วงกลาง วัสดุที่ใช้ทำประกอบด้วย 3 พลาสติกคือ
- Top housing: Polycarbonate
- Bottom housing: Nylon
- Stem: POM
สิ่งที่อยากแนะนำสำหรับ Alpaca V2 นอกจากการ Lupe คือแนะนำให้ติดฟิล์มเพิ่มเข้าไป เพราะระหว่าง Top housing และ Bottom housing อาจไมได้เชื่อมกันแน่นขนาดนั้น ให้เสริมฟิล์มเข้าไประหว่างช่องว่าง เพื่อลดเสียง Noise ที่อาจเกิดขึ้นได้ ขนาดฟิล์มควรเป็นขนาด 0.15mm สำหรับ TX Film หรืออาจใช้เป็น Film ที่ทำจากวัสดุที่ยืดหยุนได้ เช่น Deskeys Switch Film ขนาด 0.3mm (ตอนนี้ใช้อันนี้อยู่)
Stabilizer
หลังจากที่ปลุกปล้ำกับ C3 Equalz Stabilizers V2 มานานสองนาน ไม่ว่าจะ Mod ยังไงเสียงมันก็ไม่ได้ดีมากขึ้นไปกว่านี้แล้ว รวมถึงไปเสียง Rattle ที่ซ่อมยังไงก็ไม่หาย สุดท้ายแล้วทั้งหมดนี้ ปัญหามันเกิดที่ตัว Stabilizer เอง
ปัญหาอีกเรื่องของ C3 Equalz Stabilizers V2 คือด้วยความที่รูสกรูที่ใช้ขันยึด Stabilizers ให้ติดกับ PCB เป็นพลาสติก เมื่อผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน รูที่เคยแน่น ๆ มันหลวม และเมื่อเกิดการถอดเข้าออกบ่อย ๆ จากรูที่หลวม มันก็เลยกลายเป็นเกลียวที่หวาน คือเรื่องการยึดติดยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม เพราะ Keyboard ก็ไม่ได้ต้องการแรงยึดอะไรมาก แต่ความนิ่งของ Stabilizers แทบไม่มีเหลือ
C3 Equalz Stabilizers V3
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้… และไหน ๆ ก็ต้องเปลี่ยน Switch อยู่แล้ว เลยกลายเป็นการยกเครื่องภายใน Keyboard ใหม่เกือบทั้งหมด ในตอนแรกอยากได้ Staebies มาก เพราะดูมันเป็น Stabilizers ที่น่าจะดีที่สุดในท้องตลาด ณ ตอนนี้แล้ว ดู Review ของ Youtuber ได้ที่ Link ด้านล่าง
แต่ว่าของหายากมากเหลือเกิน คือคนส่วนมากที่มีก็ซื้อไว้ใช้งานเอง ไม่ค่อยมีปล่อยต่อเท่าไหร่ (เข้าใจได้ เพราะถ้ามีก็คงไม่ปล่อยต่อเหมือนกัน) ด้วยสาเหตุทั้งหมดนี้ ทำให้ต้องอัพเกรดเป็น C3 Equalz Stabilizers V3 แทน
สิ่งที่ C3 Equalz Stabilizers V3 แตกต่างจาก C3 Equalz Stabilizers V2 อย่างเห็นได้ชัดคือสกรูที่เปลี่ยนจากพลาสติกเป็นโลหะแทน จากที่เคยใช้ V2 มาพบว่าเมื่อเวลาผ่านไป สกรูที่ทำจากพลาสติกมันเกิดอาการ “หวาน” จริง ๆ แล้วก็อาจไม่ได้ส่งผลอะไรมากมายต่อ Keyboard เพราะแรงยึดติดระหว่าง Stabilizers กับ Plate ก็ไม่ได้ต้องการมากเท่าไหร่ แต่อย่างที่เข้าใจกันดีว่าวงการนี้มันต้องการความ Perfect ให้ทุก ๆ อย่าง ดังนั้นเลยต้องเปลี่ยน
Stabilizers นี้ทำเป็น Holee mod ด้วยการติดพลาเตอร์เข้าไปใน Stem เพื่อลดเสียง Rattle ที่อาจเกิดขึ้น แรก ๆ การทำ Holee mod อาจเป็นฝันร้ายของมือใหม่ เพราะมันทำได้ค่อนข้างลำบาก แต่พอฝึกไปสักพักแล้วจะพบว่ามันก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น
ที่ชอบอีกอย่างของ C3 Equalz Stabilizers V3 ที่ไม่มีใน V2 คือการให้ชุดจูน Stabilizers มาด้วย เช่นฟิล์มที่เอาไว้ใช้รองที่ฐาน PCB หรือฟองน้ำที่ใช้ช่วยพยุงเหล็กไม่ให้สั่นไปมา ชุดนี้ถ้าต้องซื้อแยกอาจต้องเสียเงินอีกหลายร้อย
Conclusion
ตอนนี้ถือเป็นสเปค Keyboard ที่ใช้อยู่ล่าสุด คิดว่าคงยังไม่มีการอัพเกรดอะไรเพิ่มในเร็ววันนี้ เพราะก็ค่อนข้างพอใจมากกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป (เว้นแต่เบื่อ) หรือถ้าเกิดหา Stabies มาได้ แน่นอนว่าต้องอัพเกรด ถึงตอนนั้นคงได้มาเขียนรีวิวกันอีกที